สวนรักษ์มะนาว

ชาวสวน แนะนำ

ต้นตำรับ “มะนาวแป้นวโรชา” สุดยอดปราชญ์ ภูมิปัญญาชาวบ้าน ปลูกมะนาวออกลูกต้นละหนึ่งพันถึงสามพันลูก คนคิดค้นเผยจบ ม.3 ลองผิดลองถูกจนประสบความสำเร็จ

ปลูกมะนาว..ไม่ใช้ดินไร้เชื้อรา..ออกผลเร็ว

วโรชา จันทโชติ
เกษตรกรที่ไม่เคยหยุดคิด ได้พัฒนาหาวิธีการปลูกพืช นำวัสดุชนิดใหม่ที่ไม่ใช่ดิน แถมให้ผลผลิตสูง โรคน้อย ในแบบที่ไฮโดรโปนิกส์ทำไม่ได้

นายวโรชา จันทโชติ เจ้าของสวนวโรชา ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ต้นตำรับ “มะนาวแป้นวโรชา” เนื้อแน่น น้ำเยอะ เปลือกบาง ไร้เมล็ด ที่สำคัญทนต่อโรค เล่าให้ฟังถึงที่มาของการทำวัสดุปลูกทดแทนดิน...

จุดเริ่มต้นมาจากในพื้นที่มีน้ำท่วมอยู่เป็นประจำเกือบทุกปี

จึงทดลองปลูกมะนาวลงในกระถางเพื่อหนีน้ำท่วม แต่เมื่อเอาดินลงกระถาง เกิดปัญหาดินแน่นและชุ่มน้ำ รากมะนาวเน่าตาย จึงทดลองใช้วัสดุอื่นๆ มาทดแทนดิน แบบลองผิดลองถูกมาตลอด... ในที่สุดมาลงตัวที่ผักตบชวา

เพราะมีข้อดี หาได้ง่ายจากธรรมชาติเสมือนเป็นการนำวัสดุเหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ช่วยรักษาสภาพแวดล้อมไปในตัว มีลักษณะร่วนซุย ไม่อมน้ำ ทำให้รากพืชชอนไชได้ดี หากินได้ง่าย ดูดซึมอาหารและแร่ธาตุได้เต็มที่

สำหรับกรรมวิธีทำวัสดุทด แทนดิน ก่อนอื่นต้องเตรียมวัสดุส่วนผสมทั้งหมด...ปูนมาล หรือแคลเซียมคาร์โบเนต, ขุยมะพร้าว, แกลบดิบ (ควรเป็นแกลบค้างปี), ขี้เถ้าแกลบ, ผักตบชวา หรือเศษไม้ใบไม้ที่หาได้ในท้องถิ่น (ถ้าเป็นใบก้ามปูจะดีมาก) คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำหมัก หรือ EM สัดส่วน 1 ช้อนชาต่อน้ำ 20 ลิตร ราดลงไปและที่ขาดไม่ได้ “ยาฆ่าเชื้อรา” หากไม่ใส่มีโอกาสสูงที่วัสดุทดแทนดินจะเกิดเชื้อรา ทำให้การปลูกพืชไม่ได้ผล... ขั้นตอนต่อมาใช้แสลนคลุมหมักทิ้งไว้ 15 วัน ถึงจะสามารถนำไปใช้งานได้

ส่วนกรรมวิธีการปลูก วโรชา แนะให้นำมาใส่ในวงบ่อซีเมนต์ ให้แบ่งวงบ่อเป็น 4 ส่วน...3 ส่วนแรก ให้นำผักตบชวา หรือเศษไม้ใบไม้ที่หาได้ในท้องถิ่น รองก้นบ่อลงไปก่อน เพื่อเป็นการประหยัดและช่วยให้มีน้ำหนักเบา อีก 1 ส่วนที่เหลือ ให้ใส่วัสดุทดแทนดินนี้ลงไปตรงกลาง

เพียงเท่านี้สามารถนำต้นไม้ลงไปปลูกได้ เมื่อวัสดุทดแทนดินยุบตัวลง ให้เติมตามสัดส่วนที่ยุบและควรทำไม้ค้ำยันต้นไม้ไว้เพื่อกระชับ เพราะลักษณะวัสดุทดแทนดินนี้จะร่วนซุยมาก ถ้าไม่ค้ำยันต้นไม้จะล้มทำให้เกิดความเสียหายได้

ผลทดลองนำมาใช้กับการปลูกมะนาว ปรากฏว่า นอกจากจะไม่มีเชื้อรามาทำลายให้รากเน่าตายแล้ว ปลูกไปแค่ 6 เดือน ออกดอกให้ผลดก....ในขณะที่ปลูกลงดินทั่วไปต้องใช้เวลาถึงปีครึ่งกว่าจะมีลูกออกมาอวดโฉม

สนใจเยี่ยมชมศึกษาดูงานแบบไม่หมกเม็ด สอบถามได้ที่ 08-8118-8234.