พันธุ์ที่นิยม
มะนาวหนัง, มะนาวไข่, มะนาวทราย, มะนาวตาฮิติ,มะนาวหวาน, มะนาวปีนัง, มะนาวโมฬีมะนาวนอกจากจะนำมาปรุงอาหารแล้ว ยังนำมาทำเครื่องดื่ม ทำยารักษาโรค บำรุงผิวพรรณ มะนาวสามารถปลูกได้ทุกภาคของประเทศไทย จังหวัดที่มีการปลูกมะนาวมาก ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ กาญจนบุรี นนทบุรี ปราจีนบุรี และสุพรรณบุรี พันธุ์มะนาวที่ปลูกกันในประเทศไทยในปัจจุบัน ได้แก่
1.มะนาวหนัง ลักษณะเป็นพุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูงประมาณ 2-5 เมตร การแตกกิ่งก้านสาขาไม่เป็นระเบียบ กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมสีเขียวจางเมื่อโตขึ้นจะกลมและตามกิ่งมีหนามโคน หนามสีเขียว ปลายหนามสีน้ำตาล รอยต่อระหว่างสีเขียวและสีน้ำตาลมักมีรอยต่อเห็นได้ชัด เมื่อกิ่งแก่หนามจะแห้งและตาย ผลอ่อนมีลักษณะกลมยาว หัวท้ายแหลม เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ สั้นเข้าหัวท้ายจะมนเข้า ผลโตเต็มที่ ส่วนมากมีลักษณะกลมค่อนข้างยาว มีกลมมนบ้าง แต่น้อยกว่า ด้านหัวมีจุดเล็ก ๆ ผิวเรียบและมีเปลือกบาง
2.มะนาวไข่ ลักษณะลำต้นเป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงประมาณ 2-5 เมตร มีขนาดและลักษณะคล้ายกับมะนาวหนัง ผลอ่อนจะมีลักษณะกลมยาว หัวท่านแหลมจะค่อย ๆ มนเข้าเมื่อโตขึ้น เมื่อโตเต็มที่ลักษณะกลมมนเป็นส่วนใหญ่ ผิวเรียบ เปลือกบาง ผลโตกว่ามะนาวหนังเหมาะสำหรับทำมะนาวดอง
3.มะนาวทราย ในปัจจุบันนี้นิยมปลูกกันมากที่สุด เพราะเป็นมะนาวที่ออกลูกมาก และออกดอกตลอดปี ซึ่งได้แก่
- พันธุ์แม่ไก่ไข่ดก ลักษณะผลกลม ผลมีขนาดกลาง แต่ความดกมีมาก ให้ผลได้เกือบตลอดทั้งปี ปลูกในกระถางก็สามารถออกดอกและเก็บผลได้
- พันธุ์แป้นรำไพ ลักษณะทรงผลแป้น ผลใหญ่กว่าแม่ไก่ไข่ดกเปลือกไม่หนามาก
- พันธุ์แป้นทวาย ผลมีขนาดกลาง ทรงผลแป้น เปลือกบาง
4.มะนาวตาฮิติ เป็นมะนาวพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งกรมวิชาการเกษตรได้นำมาจากหมู่เกาะตาฮิติ ผลมีขาดใหญ่ รูปไข่ เปลือกและเนื้อมีสีเขียว เก็บเกี่ยวขณะที่เปลือกสีเขียวเข้ม มีกลิ่นและรสดี เป็นมะนาวไม่มีเมล็ด
5. มะนาวหวาน มีผลขนาดใหญ่ ผลรูปร่างกลม เปลือกสีเขียวเข้ม รสไม่เปรี้ยว หรือเปรี้ยวน้อยกว่าพันธุ์อื่น จึงไม่ค่อยนิยมปลูกกัน
6. มะนาวปีนัง ลักษณะผลกลมยาว ผลโตกว่ามะนาวหนัง ก้นแหลมคล้ายไข่เต่า เปลือกหนา มีกลิ่นหอม ปลูกเป็นไม้ประดับได้ดี
7. มะนาวโมฬี ลักษณะลูกกลมโต แต่ส่วนก้นจะกลมแป้น มีเปลือกหนา พันธุ์นี้มีรสเปรี้ยวมาก ลำต้นจะใหญ่แข็งแรง เหมาะสำหรับใช้ทำเป็นต้นตอ
8.มะนาวพม่า มีผลโตเกือบเท่าส้มเขียวหวาน เปลือกหนา ใบค่อนข้างจะรี ๆ ขอบใบมีจักเล็กน้อย มีรสเปรี้ยว แต่ไม่ค่อยมีกลิ่นจึงไม่ค่อยนิยมปลูกกันมาก